แต่ลักษณะเช่นนี้คงมิใช่เพียงเรื่องหลอกเด็กที่แต่งขึ้นใหม่ เพราะในไตรภูมิพระร่วงได้บรรยายลักษณะของเปรตไว้ ได้ละเอียดเหมือนกับเคยเห็นมา แม้แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ก็เคยเล่าให้ฟังว่าเคยเห็น จะลองหยิบยกมาเป็นตัวอย่างดังนี้ เช่น ...เปรตบางจำพวกตัวใหญ่ ปากน้อยเท่ารูเข็มก็มี ...เปรตบางจำพวกผมหนา อดอยาก ไม่มีอาหารจะกิน บางพวกก็กินเนื้อของลูกตัวเอง ฯลฯ…. สมัยปู่ย่าตายาย ก็เล่าต่อ ๆ กันมา ลูกทรพีทำร้ายพ่อแม่ เมื่อตายแล้วดวงวิญญาณก็มาเกิดใหม่เป็นเปรต “มือที่ตบตีพ่อแม่จะขยายใหญ่เท่าใบลาน ปากที่ดุด่าพ่อแม่จะเล็กลงเหลือเท่ารูเข็ม”
เปรตบางพวกมีไฟพุ่งออกจาก อก ลิ้น ปาก แล้วลามไหม้ตัวเอง เพราะได้ด่าสบประมาท และกล่าวคำเท็จต่อพระสงฆ์ผู้ใหญ่ผู้มีศีล ... เปรตบางพวกตัวใหญ่เท่าภูเขา มีขนยาวแหลม มีเล็บตีนเล็บมือใหญ่ เล็บนั้นคมดังมีดกรีดและหอกดาบ เมื่อเล็บตีนเล็บมือและขนไปกระทบกัน จะเกิดเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า เกิดเป็นไฟลุกไหม้ตัวเอง และบาดตัวเหมือนดังขวานฟ้าผ่าตัว เพราะทำกรรม คือเกิดเป็นนายเมือง ตัดสินความโดยไม่ชอบธรรม เห็นแก่สินบน ไม่วางตัวเป็นกลาง คนถูกว่าผิด คนผิดว่าถูก
เรื่องของเปรต มีเยอะมาก ๆ ก็ขอยกตัวอย่างมาพอสังเขปก่อน มาดูในสมัยพุทธกาล คงเคยได้ยินเปรตญาติของพระเจ้าพิมพิสาร มาดูเรื่องราวว่าเป็นมาอย่างไร.... ในพระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ว่า ... ในกัปที่ 92 แต่ภัทรกัปนี้ ได้มีเมืองชื่อว่ากาสี. พระราชาทรงประนามว่าชัยเสน ทรงครองราชสมบัติในพระนครนั้น. พระองค์ได้มีพระราชเทวีทรงพระนามว่าสิริมา. พระโพธิสัตว์นามว่า ผุสสะ บังเกิดในพระครรภ์ของพระนางแล้ว ตรัสรู้
พระเจ้าชัยเสนเกิดความคิดว่า บุตรของเราเป็น
พี่น้องทั้ง 3 คนผู้ต่างมารดา ของพระผู้มีพระภาคเจ้า คิดว่า พระพุทธเจ้าย่อมอุบัติเพื่อประโยชน์แก่ชาวโลกทั้งมวล พระบิดาของพวกเราก็ไม่ยอมให้โอกาสแก่ชนอื่น
ดังนั้นพี่น้องทั้ง 3 จึงอุบายได้สร้างสถานการณ์ชายแดน ประหนึ่งว่าเกิดการปั่นป่วน. พระราชาทรงสดับแล้ว จึงได้ส่งพระโอรสทั้ง 3ไปปราบ จนปัจจันตชนบทสงบแล้วกลับมา. พระราชาทรงพอพระทัย ได้ประทานพรว่า พวกลูกปรารถนาสิ่งใดก็จงถือเอาสิ่งนั้น พี่น้องทั้ง 3 กราบทูลว่า ปรารถนาจะอุปัฏฐากพระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระราชาตรัสว่า เว้นพระผู้มีพระภาคเจ้า เธอจงเลือกเอาอย่างอื่นเถิด. พี่น้องทั้ง 3 กราบทูลว่า พวกข้าพระองค์ไม่ต้องการสิ่งอื่น. พระราชาตรัสว่า ถ้าอย่างนั้น พวกเธอจงกำหนดเวลามาแล้วถือเอาเถิด. พี่น้องทั้ง 3 ทูลขอถึง 7 ปี พระราชาไม่ทรงอนุญาต. ขอ 6 ปี 5 ปี 4 ปี 3 ปี 2 ปี 1 ปี 7 เดือน 6 เดือน 5 เดือน 4 เดือนจนกระทั่งขอเพียง 3 เดือน พระราชได้ทรงอนุญาต
พี่น้องทั้ง 3 ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ปรารถนาจะอุปัฏฐากตลอด 3 เดือน, ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงรับการอยู่จำพรรษา ตลอด 3 เดือนนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับด้วยดุษฎีภาพ.
พี่น้องทั้ง 3 จึงส่งข้อความไปถึงนายเสมียนในชนบทของตนให้ช่วยจัดแจงสัมภาระ สำหรับ
บุตรคฤหบดีคนหนึ่งผู้เก็บเสบียงคลังของพี่น้องทั้ง 3 พระองค์นั้น พร้อมด้วยภริยา เป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส. เขาได้ถวายทานวัตร แก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานโดยเคารพ.
นายเสมียนชักชวนชาวบ้านไป 11,000 คน ได้ให้ทานเป็นไปโดยเคารพทีเดียว. มีชาวบ้านบางพวกไม่พอใจกัน พากันกินไทยธรรมด้วยตนเอง และเอาไฟเผาโรงครัว. เมื่อครบ 3 เดือนก็ได้ทำสักการะพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนำพระผู้มีพระภาคเจ้ากลับมาหาบิดาตามเดิม. เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว. เสมียนในชนบท และผู้เก็บเสบียงคลัง เมื่อตายไปบังเกิดในสวรรค์ ชาวบ้านที่ไม่พอใจกันก็พากันเกิดในนรก.
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ ชาวบ้านผู้ไม่พอใจเหล่านั้นเกิดเป็นเปรต. เปรตเหล่านั้นได้เห็นพวกมนุษย์พากันให้ทานอุทิศเพื่อประโยชน์แก่เปรตผู้เป็นญาติ เปรตญาติคนอื่นได้เสวยสมบัติ. เปรตชาวบ้านเหล่านั้น จึงเข้าไปเฝ้าพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ทูลถามว่า พวกข้าพระองค์จะพึงได้สมบัติเห็นปานนี้ หรือไม่หนอ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า บัดนี้ ท่านยังไม่ได้ แต่ในอนาคตจะมีพระ
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแคว้นของพระเจ้าพิมพิสาร พระราชาทรงนิมนต์เสวย
พวกเปรตเมื่อไม่ได้ส่วนบุญนั้นก็สิ้นหวัง ในเวลากลางคืนจึงพากันส่งเสียงร้องอันน่าสะพึงกลัวอย่างยิ่ง ใกล้พระราชนิเวศน์. พระราชาทรงได้ยินเสียง แล้วเกิดสะพึงกลัว หวาดเสียว พอรุ่งขึ้นจึงได้ไปกราบทูลกับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าพระองค์ได้สดับเสียงเห็นปานนี้ จะมีเหตุอะไรแก่ข้าพระองค์ บ้าง
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อย่าทรงกลัวเลยมหาบพิตร ไม่มีความชั่วช้าลามกอะไรแก่พระองค์ ญาติเก่าก่อนของพระองค์ที่เกิดเป็นเปรต หวังจะพบพระองค์ถึงพุทธันดรหนึ่ง ท่องเที่ยวไปด้วยหวังใจว่า พระองค์ถวายทานแด่พระพุทธเจ้าแล้ว จะอุทิศส่วนบุญให้บ้าง พระองค์ถวายทานเมื่อวันวานแล้ว มิได้อุทิศจึงพากันสิ้นหวัง ส่งเสียงร้องเห็นปานนั้น.
พระราชาตรัสถามว่า หม่อมฉันถวายทานตอนนี้ เปรตเหล่านั้นจะพึงได้รับหรือไม่ ? พระศาสดาตรัสว่า ...ได้ มหาบพิตร. พระราชาจึงขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดรับทานของพระองค์ ในวันนี้, แล้วจะอุทิศส่วนบุญให้แก่พวกเปรตเหล่านั้น.
พระราชาเสด็จไปยังพระราชนิเวศน์ ทรงให้จัดแจงมหาทานแล้ว กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ประทับนั่งบนอาสนะที่จัดไว้. เปรตเหล่านั้นไปด้วยหวังว่า วันนี้ พวกเราจะพึงได้อะไรเป็นแน่ ดังนี้ จึงได้พากันยืนอยู่ในที่ต่างๆ มีภายนอกฝาเรือนเป็นต้น.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกระทำให้พระเจ้าพิมพิสาร เห็นเปรตเหล่านั้นด้วยตาเนื้อ เมื่อทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก จึงอุทิศว่า ทานที่ข้าพเจ้าให้นี้จงสำเร็จแก่พวกญาติเถิด. ในบัดดลนั้นเอง สระโบกขรณีอันดาระดาษด้วยกลุ่มดอกกมล ได้บังเกิดแก่พวกเปรต. เปรตเหล่านั้นพากันอาบและดื่มในสระโบกขรณีนั้นได้สงบระงับความกระวนกระวาย ความลำบากและความกระหาย ผิวพรรณผ่องใส
พระราชาถวายข้าวยาคู ของเคี้ยวและของบริโภคแล้วอุทิศให้. ขณะนั้นนั่นเอง ข้าวยาคู ของเคี้ยวและอาหารอันเป็นทิพย์ก็บังเกิดแก่เปรตเหล่านั้น. เปรตเหล่านั้นพากันบริโภคข้าวยาคูเป็นต้นนั้นแล้ว ก็ได้เป็นผู้มีอินทรีย์กระปรี้กระเปร่า.
ลำดับนั้น พระองค์ได้ถวายผ้า ที่นอนและที่นั่งแล้วอุทิศให้. เครื่องประดับมีชนิดต่างๆ เช่น ผ้า ปราสาท เครื่องลาดและที่นอนเป็นต้นอันเป็นทิพย์ได้บังเกิดแก่เปรตเหล่านั้น. และสมบัติของเปรตเหล่านั้นทั้งหมดนั้นได้ปรากฏแก่พระราชา โดยประการที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอธิษฐานไว้. พระราชาทรงทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ทรง
จะเห็นได้ว่าเรื่องของเปรตนี้ มีจริงหรือไม่ เราจะเชื่อตอนเป็น หรือเราจะไปเห็นตอนตาย แต่ที่สำคัญในพระไตรปิฎกยังมี ซึ่งเรืองนี้นำมาจาก อรรถกถา ขุททกนิกาย เปตวัตถุ ปฐมวรรค ( ติโรกุฑฑเปตวัตถุ) อ่านและศึกษาความรู้ไว้ ติดขาติดแข้ง ... ถ้า นรก สวรรค์ไม่มีก็เจ๋ากันไป แต่ถ้ามี เราก็จะได้ไม่พลาดไปตกนรก แล้วมาเป็นเปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน ฯลฯ ความชั่วแม้แต่เล็กน้อยอย่าไปทำเลย เพราะทุกการกระทำจะมีผลของวิบากกรรมทั้งสิ้น
#ธรรมะดีดี #ข้อคิด
#สาระดีดี #มีประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น