วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561


การทะเลาะกัน 
 เป็นทางมาซึ่งความพินาศ  
..............................

                   ความสามัคคี  ....  เป็นคุณธรรมพื้นฐานที่ทุกคนในสังคมยอมรับว่า เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น หน่วยสังคมขนาดเล็ก ระดับครอบครัว ระดับองค์กร หรือขนาดใหญ่ระดับชุมชน ระดับประเทศ และระดับโลก หากขาดความสามัคคี ย่อมขาดพลังในการทำสิ่งต่าง ๆ และยิ่งหากปัญหาความขัดแย้งมีมาก ย่อมสามารถลุกลามไปสู่ความรุนแรงได้ในที่สุด
เหมือนเรื่องในสัมโมทมาชาดก ดังนี้ 

                   มีป่าแห่งหนึ่ง…มีพญานกกระจาบ เป็นผู้ดูแลฝูง  วันหนึ่ง  . มีนายพรานคนหนึ่งถือตาข่ายไปจับเอาไปกิน เอาไปขาย  ก็ไปแอบที่พุ่มไม้ ทำเสียงเหมือนนกกระจาบ ... นกกระจาบเมื่อได้ยินก็บินลงมาคิดว่าเพื่อนเรียก  แต่เมื่อลงมาไม่เห็นเพื่อน  นายพรานเห็นเป็นจังหวะ เลยเหวี่ยงแหไป ได้นกเป็นจำนวนมาก  

                     สิ่งเหล่านี้อยู่ในสายตาของพญานกกระจาบ  คิดว่า เราจะทำอย่างไรดี  เพื่อให้บริวารของเรามีความปลอดภัย  เมื่อโดนจับไปคิดไปคิดมา  คิดได้ จึงเรียกนกกระจาบบริวารมาประชุมกัน...บอกว่า  มีวิธีการอย่างนี้นะ   พวกเจ้าโดนจับได้เมื่อไหร่ ให้พวกเจ้าเอาหัวสอดเข้าไปที่ตาข่าย แล้วบินขึ้นไปพร้อม ๆ กัน  แล้วเอาตาข่ายไปไว้บนยอดไม้สูง ๆ  ลูกนกกระจาบ ได้รับทราบโอวาทและวิธีการของพญานกเรียบร้อยแล้ว 

                        วันต่อมา นายพรานก็ทำเหมืือนเดิิม  มาแอบ และเรียเสียงเหมือนนกกระจาบ  นกกระจาบก็ลงไปเหมือนเดิม   นกทั้งหลาย ช่วงแรกก็ตกใจ  แต่เมื่อตั้งสตินึกถึงโอวาทของพญานกกระจาบได้ จึงบอกให้นกทุกตัวทำอย่างโอวาทของพญานกกระจาบ  ทุกตัวเอาหัวลอดตาข่าย   แล้วบินพร้อม ๆ กัน   กลายเป็นตาข่ายบินได้   บินไปถึงยอดไผ่แห่งหนึ่ง เอาตาข่ายไปวางไว้  แล้วตัวนกกระจาบก็บินจากไป  
                           

                         เมื่อนายพรานกลับบ้าน ภรรยาแปลกใจและต่อว่านายพรานว่าทำไมไม่ได้นกสักตัวเลย  นายพรานก็เล่าให้ฟังว่านกกระจาบทำอย่างนี้  แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี่๋ยวนกก็แตกสามัคคีกัน   เราก็จับนกได้อีกครั้งหนึ่ง  

                          ผ่านไปหลายวัน  ภายในฝูงของนกระจาบ เกิดการทะเลาะกัน  ตอนแรกก็ทะเลาะกัน 2 ตัว   ต่อมา เริ่มทะเลาะกันในวงกว้างมากขึ้น  สิ่งเหล่านี้ก็อยู่ในสายตายของพญานกกระจาบ ซึ่งเป็นหัวหน้า  พญานกคิดว่า หากเป็นอย่างนี้  ความสามัคคีไม่มีแล้ว ความหายนะก็จะเกิดขึ้นกับหมู่คณะเรา  ก็เลยชวนบริวารที่ยังเชื่อฟัง บินหนีไป  ย้ายไปอยู่ที่อื่น  ทิ้งตัวที่ทะเลาะกันอยู่ที่เดิม  

                          วันต่อมานายพรานก็มาจับเหมือนเดิม  เหวี่ยงแหสำเร็จเหมือนเดิม  แต่นกแบ่งออกเป็น 2 พวก  คือพวกที่ 1 จะทำตามโอวาทของพญานก  แต่อีกพวกหนึ่งบอกว่าทำไมต้องทำตาม  ก็ทะเลาะกันใหญ่    เมื่อไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว ก็ทำให้ไม่สามารถบินพาตาข่ายขึ้นไปได้   จึงโดนนายพรานโดนจับได้อย่างง่ายดาย   ส่วนนกที่ตามพญานกไปก็อยู่อย่างมีความสุข  

                           จะเห็นว่า ความสามัคคี  มีพลังและมีอานุภาพมาก  เพราะฉะนั้น องค์กรใดที่ยังมีความรัก ความสามัคคีกัน  ใคร ๆ ก็จะมาทำลาย ไม่ได้    ในทางตรงกันข้าม  หากไม่มีความสามัคคีแล้ว  สักวันหนึ่งองค์กรนั้นก็จะถูกทำลายได้โดยง่าย  การทะเลาะกัน ไม่ดีเลย  จะนำมาซึ่งความพินาศ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ศาสดาเอกของโลก (๑)

ศาสดาเอกของโลก   (๑)                  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นแล้วจากกิเลสอาสวะ กิจที่จะทำยิ่...