กรรม คือการกระทำ มี 2 อย่างคือ กุศลกรรม คือการกระทำดี และอกุศลกรรม คือ การกระทำชั่ว ทุก ๆ การกระทำ ย่อมมีผลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ดังนั้น ท่านที่ทำความดี ผลย่อมตอบแทนดี ท่านที่ทำกรรมชั่ว ก็ย่อมได้รับผลชั่วตอบแทน เพราะฉะนั้น สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตน.. เป็นทายาทแห่งกรรม... มีกรรมเป็นกำเนิด ...มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ...มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย .. ใครทำกรรมใดไว้ ..จะดีหรือชั่วก็ตาม ตนจะต้องรับผลของกรรมนั้น
ในทางโลก คนทำผิดสามารถเลี่ยงกฏหมายได้บ้าง โดยสร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ เพื่อมาอ้างให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองถูก แต่สำหรับกฏแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ จะไม่สามารถหลบหลีกได้เลย และเมื่อกรรมส่งผล จะหนีไปทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางภูเขา ก็ไม่สามารถพ้นจากกรรมที่ตนเองเคยทำไว้ได้ ดังคำที่ว่า ใครทำกรรมใดไว้ ตนจะต้องรับผลของกรรมนั้น
เรื่องที่จะเล่านี้ เป็นเรื่องในธรรมบท เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์ประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภเรื่องมีอยู่ว่า มีภิกษุ 3 กลุ่มประสบพบเห็นเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน ในขณะที่ภิกษุทั้ง 3 กลุ่มนี้ เดินทางมาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เรื่องมีดังนี้
ในทางโลก คนทำผิดสามารถเลี่ยงกฏหมายได้บ้าง โดยสร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ เพื่อมาอ้างให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองถูก แต่สำหรับกฏแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ จะไม่สามารถหลบหลีกได้เลย และเมื่อกรรมส่งผล จะหนีไปทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางภูเขา ก็ไม่สามารถพ้นจากกรรมที่ตนเองเคยทำไว้ได้ ดังคำที่ว่า ใครทำกรรมใดไว้ ตนจะต้องรับผลของกรรมนั้น
เรื่องที่จะเล่านี้ เป็นเรื่องในธรรมบท เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์ประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภเรื่องมีอยู่ว่า มีภิกษุ 3 กลุ่มประสบพบเห็นเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน ในขณะที่ภิกษุทั้ง 3 กลุ่มนี้ เดินทางมาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เรื่องมีดังนี้
กลุ่มที่หนึ่ง ขณะเดินทางเพื่อเข้าเฝ้าพระศาสดา ในระหว่างทางได้ไปแวะพักอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะที่พวกชาวบ้านกำลังตระเตรียมปรุงอาหารบิณฑบาตถวายพระสงฆ์อยู่นั้น มีบ้านหลังหนึ่งเกิดไฟไหม้ และมีเสวียนไฟ (ลักษณะเป็นวงกลม) ปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้า และมีอีกาตัวหนึ่งบิน สอดคอเข้าไปในวงเสวียนไฟ ตกลงมาตายที่กลางหมู่บ้าน ภิกษุทั้งหลายเห็นอีกา บินสอดคอเข้าไปในเสวียนตกลงมาตายเช่นนั้น ก็กล่าวว่า จะมีก็แต่พระศาสดาเท่านั้นที่จะทรงทราบบุพกรรมของกาตัวนี้ที่ต้องมาประสบชะตากรรมเสียชีวิตอย่างสยดสยองครั้งนี้
ภิกษุกลุ่มที่สอง โดยสารเรือเพื่อไปเข้าเฝ้าพระศาสดา เมื่อเรือลำนั้นเดินทาง มาถึงกลางมหาสมุทร เกิดการหยุดนิ่งอยู่กับที่ พวกผู้โดยสารมากับเรือต่างปรึกษาหารือกันถึงสาเหตุที่ทำให้เรือหยุด เห็นว่าในเรือน่าจะมีคนกาลกิณี จึงได้ทำสลากแจกให้แต่ละคนจับ เพื่อค้นหาคนกาลกิณี คนนั้น
ปรากฏว่าสลากได้ถึงแก่ภรรยาของนายเรือถึงสามครั้ง นายเรือจึงกล่าวขึ้นว่า คนทั้งหลายจะมาตายเพราะ หญิงกาลกิณี คนนี้ไม่ได้ จึงจับภรรยาของนายเรือ ใช้กระสอบทรายมัดที่คอแล้วผลักตัวลงไปในน้ำทะเล เมื่อหญิงภรรยาของนายเรือถูกจับถ่วงน้ำไปแล้ว เรือก็สามารถเคลื่อนตัวได้ อย่างปกติ เมื่อภิกษุเหล่านั้นเดินทางถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ก็ขึ้นฝั่งจะเดินทางต่อไปเฝ้าพระศาสดา ตั้งใจทูลถามถึงบุพกรรมของภรรยาของนายเรือ ที่ถูกใช้กระสอบทรายมัดที่คอแล้วผลักตัวลงไปในน้ำทะเลนี้
ภิกษุกลุ่มที่สาม ขณะเดินทางเพื่อเข้าเฝ้าพระศาสดา แต่ในระหว่างทาง ได้เข้าไปสอบถามที่พระภิกษุวัดแห่งหนึ่งว่าพอจะมีที่พักค้างแรมสักคืนในบริเวณใกล้เคียง เมื่อได้รับแจ้งว่ามีถ้ำแห่งหนึ่งพอจะพักค้างแรมได้ จึงได้เดินทางไปพัก ณ ที่นั้น แต่พอถึงช่วงกลางดึกก็มีหินใหญ่ก้อนหนึ่ง กลิ้งมาปิดที่ปากถ้ำ ในตอนเช้าพวกภิกษุจากวัดที่อยู่ใกล้ๆเดินทางมาที่ถ้ำ เมื่อเห็นหินใหญ่กลิ้งมาปิดอยู่ที่ปากถ้ำเช่นนั้น ก็ได้ไปตระเวนขอแรงชาวบ้านจากเจ็ดหมู่บ้านให้มาช่วยกันผลักหินก้อนนั้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุนี้พระภิกษุ 7 รูปจึงถูกขังอยู่ในถ้ำโดยไม่ได้ฉันอาหารฉันเป็นเวลา 7 วัน พอถึงวันที่ 7 หินใหญ่ที่ปิดปากถ้ำก็เคลื่อนตัวออกมาเองราวปาฏิหาริย์ ภิกษุกลุ่มนี้ก็ตั้งใจว่า เมื่อเดินทางไปเฝ้าพระศาสดาแล้วก็จะทูลถามว่าเป็นวิบากกรรมอะไรที่ทำให้ต้องถูกขังอยู่ในถ้ำนานถึง 7 วันเช่นนี้
ภิกษุทั้งสามกลุ่มได้เดินทางมาพบกันระหว่างทาง จึงเดินทางไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาพร้อมกัน ภิกษุแต่ละกลุ่มก็ได้กราบทูลถึงสิ่งที่กลุ่มตนได้ประสบพบเห็นมา ให้พระศาสดา ทรงทราบ พระองค์ทรงตรัสตอบ ถึงบุพกรรมของคนทั้ง 3 กลุ่ม ที่พระภิกษุได้เห็นมาดังนี้
กลุ่มแรก “ ภิกษุทั้งหลาย กานั้นได้เสวยกรรมที่ตนทำแล้วนั่นแหละโดยแท้ เรื่องมีอยู่ว่า มีชาวนาผู้หนึ่ง ในกรุงพาราณสี ฝึกโคของตนอยู่ แต่ไม่อาจฝึกได้ ด้วยว่าโคของเขาเดินไปได้หน่อยเดียวก็นอน แม้เขาจะตีให้ลุกขึ้น ให้เดินไปได้หน่อยเดียว ก็ล้มตัวลงนอน เหมือนอย่างเดิม
ชาวนานั้น แม้พยายามแล้วก็ไม่สามารถฝึกโคได้สำเร็จ จึงมีความโกรธ กล่าวกับมันว่า อยากนอนนัก ก็นอนอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปไหนอีก ว่าแล้วก็เอาฟ่อนฟางมามัดที่คอโค แล้วจุดไฟเผา โคถูกไฟคลอกตาย ภิกษุทั้งหลาย กรรมอันเป็นบาปนั้น ชาวนานั้นกระทำแล้วในครั้งนั้น ทำให้เขาหมกไหม้อยู่ในนรกสิ้นกาลนาน เพราะวิบากของกรรมอันเป็นบาปนั้น เกิดแล้วในกำเนิดกา 7 ครั้ง ถูกไฟไหม้ตายในอากาศอย่างนี้ ด้วยเศษวิบากกรรม"
กลุ่มที่สาม “ภิกษุทั้งหลาย ครั้งหนึ่งเด็กเลี้ยงโค 7 คนเห็นเหี้ยตัวหนึ่งเดินเข้าไปในช่องจอมปลวก จึงช่วยกันปิดทางออกทั้ง 7 ช่องของจอมปลวกด้วยกิ่งไม้ และก้อนดินเหนียว หลังจากปิดช่องทางไม่ให้เหี้ยออก พวกเด็กก็ต้อนโคไปเลี้ยง ณ ที่อื่น หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน เมื่อต้อนโคกลับมาที่เดิมจึงนึกขึ้นมาได้ และได้ไปช่วยกันเปิดช่องจอมปลวกให้เหี้ยนั้นออกมา ก็เพราะวิบากกรรมครั้งนั้น ทำให้ทั้ง 7 คนถูกขังอยู่ในถ้ำนานถึง 7 วันโดยไม่ได้รับประทานอาหารแบบนี้ ในช่วง 14 ชาติสุดท้าย”
พระศาสดาตรัสว่า ....
น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส
น วิชฺชเต โส ชคติปฺปเทโส ยตฺรฏฺฐิโต มุจเจยฺย ปาปกมฺมา.
คนที่ทำกรรมชั่วไว้ หนีไปแล้วในอากาศ หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร หนีเข้าไปสู่ซอกแห่งภูเขา เพราะเขาอยู่แล้วในประเทศแห่งแผ่นดินใด ประเทศแห่งแผ่นดินนั้น ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ภิกษุเหล่านั้น บรรลุอริยผลทั้งหลายมี โสดาปัตติผลเป็นต้น พระธรรมเทศนามีประโยชน์แม้แก่มหาชนผู้มาประชุมกัน
.................................
เพราะฉะนั้น ขึ้นชื่อว่ากรรม แม้แต่เพียงเล็กน้อย อย่ากระทำเลยจะดีกว่า พระพุทธองค์ ตรัสว่า กรรมทุกกรรมจะส่งผลหมดทุกกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว เพียงแต่การส่งผลไม่ได้เรียงตามลำดับเท่านั้นเอง ดังนั้น หน้าที่ของเรามีสิทธิ์เลือกว่า เราอยากได้ความสุขหรือความทุกข์ ถ้าอยากได้ความสุข ก็ทำกรรมดี ถ้าอยากได้ความทุกข์ ก็ทำชั่ว ชีวิตคนเราก็มีเท่านี้เอง
.................................
เพราะฉะนั้น ขึ้นชื่อว่ากรรม แม้แต่เพียงเล็กน้อย อย่ากระทำเลยจะดีกว่า พระพุทธองค์ ตรัสว่า กรรมทุกกรรมจะส่งผลหมดทุกกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว เพียงแต่การส่งผลไม่ได้เรียงตามลำดับเท่านั้นเอง ดังนั้น หน้าที่ของเรามีสิทธิ์เลือกว่า เราอยากได้ความสุขหรือความทุกข์ ถ้าอยากได้ความสุข ก็ทำกรรมดี ถ้าอยากได้ความทุกข์ ก็ทำชั่ว ชีวิตคนเราก็มีเท่านี้เอง
#ธรรมะดีดี #ข้อคิด #สาระดีดี #มีประโยชน์ #คนจริง #รักจริง #จริงใจ #กรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น