ธรรมที่ทำให้งาม
ความสวยงามเกิดขึ้นได้ 2 ทางด้วยกัน คือ
1.ทางกาย ..เสื้อผ้า อาภรณ์ที่เหมาะสมกับการแต่งตัว ใส่พอดี รูปแบบที่สุภาพ สีไม่ฉูดฉาดมาก ใส่แล้วดูเรียบร้อย ...ทรงผม ก็ต้องดูให้เหมาะสมกับรูปหน้า และวัย โดยภาพรวมต้องดูเรียบร้อย ไม่ยุ่งเหยิง ...กิริยามารยาท ซึ่งจะเป็นตัวเสริมอีกอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ ร่างกายต้องสะอาดและสุภาพ ฯลฯสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเสริมให้รูปร่างหน้าตาดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
2. ทางจิตใจ ...คือเป็นคนใจงาม ใจบุญ ใจเมตตา ใจกรุณา ฯลฯ งามทางจิตใจนี้ ถือว่าเป็นสุดยอดของความงาม เพราะงามที่ใจจะเป็นผู้ที่มีเสน่ห์ลึกซึ้ง ไม่ล้าสมัย แม้จะเห็นได้ยาก แต่สามารถรู้ได้ด้วยการพูดคุย สนทนา และการอยู่ร่วมกัน หรือสัมผัสได้โดยวิธีการใด วิธีการหนึ่ง ถ้าจิตใจงดงามแล้ว จะทำให้ความสวยงามทางกายโดดเด่นยิ่งขึ้น
มาดูความงามของนางวิสาขากันบ้าง นางวิสาขา ถือว่าเป็นหญิงงามในสมัยพุทธกาล ที่งามพร้อมด้วยเบญจกัลยาณี คือมีความงาม 5 ประการ ได้แก่ 1.ผมงามเหมือนกำหางนกยูง 2.ริมฝีปากงามเหมือนสีผลตำลึงสุก เรียบสม่ำเสมอและปิดมิดชิด 3.กระดูกงาม ฟันขาวเหมือนไข่มุก เรียงเป็นระเบียบ 4.ผิวงาม เกลี้ยงเกลา 5.วัยงามเป็นสาวสวยพริ้งอยู่เสมอ
นางวิสาขา ไม่ได้งามเฉพาะภายนอกที่เห็นทั้ง 5 ประการที่กล่าวมานี้เท่านั้น แต่ภายในจิตใจของนางยิ่งงดงามกว่าภายนอก คือนางมีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา นางได้บรรลุเป็นพระโสดาบันตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ได้รักษาศีลและเจริญภาวนามาตลอด นอกจากนี้ยังทำบุญบริจาคทานอยู่เป็นนิตย์ จนได้รับการยกย่องให้นางเป็นผู้เลิศในการถวายทาน
นางจึงเพรียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ แม้เวลาผ่านไปถึง 120 ปี แต่รูปกายของนางก็ยังคงสวยสดใส ไม่ต่างอะไรกับหญิงแรกรุ่น นางเป็นมารดาของบุตรธิดาถึง 20 คน บุตรธิดาเหล่านั้นยังสืบสานวงศ์ตระกูลจนมีลูกหลานอีก 8,420 คน ความงามของนางก็ยังเต็มเปี่ยม ทุกคนมีความปรารถนาที่จะได้มา ซึ่งความงามเหล่านั้น
ในขั้นต้นพระพุทธองค์ทรงสอนให้ตกแต่งจิตใจให้เป็นคนใจงาม ในระดับพื้นฐานต้องมีธรรมะไว้ 2 ข้อไว้ปฏิบัติ คือ
1. ขันติ คือความอดทน หมายถึงการรักษาปกติภาพของตนไว้ได้เมื่อถูกกระทบ ด้วยสิ่งไม่พึงปรารถนา จำแนกตามเหตุได้ 4 ระดับ คือ
...อดทนต่อความลำบากตรากตรำ ขยันหมั่นเพียร เข้มแข็ง ไม่ท้อถอย หนักเอาเบาสู้
...อดทนต่อทุกขเวทนา เจ็บป่วยไม่แสดงอาการทุรนทุรายเกินเหตุ
..อดทนต่อความเจ็บใจ คือทนต่อการกระแทกแดกดันของคนอื่น
...อดทนต่ออำนาจกิเลส สิ่งยั่วยุต่างๆ เมื่อได้มาก็ไม่ดีใจจนเกินไป เมื่อเสียไปก็ไม่เสียดายเกินไป ไม่แสดงกิริยามารยาทที่ไม่ดีงาม มีสติปัญญาควบคุมตนให้มีเหตุผลเสมอ และ ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี
2. โสรัจจะ คือความสงบเสงี่ยม สงบจิต สงบใจ ทำใจให้เย็น ๆ เมื่อใจสงบแล้ว กิริยาอาการที่แสดงออกมาก็จะสงบเสงี่ยม มีอัธยาศัยดีงาม มีความสงบเรียบร้อย มีความประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน มีความสุภาพอ่อนโยน รู้จักโอภาปราศรัย มองโลกในแง่ดี รู้จักยกย่องให้เกียรติผู้อื่น
สรุปคือ...เมื่อทุกคนทำได้ทั้งขันติ และโสรัจจะแล้ว ความงามทุกส่วนที่เคยมีอยู่ ก็จะไม่เสื่อม จะคงงดงามอยู่ และคงชนะใจคนอื่นได้เป็นอย่างดี ยิ่งนับวัน จะยิ่งงดงาม มีคุณค่า ที่ประเมินค่าไม่ได้ และสร้างความรัก ความผูกพันเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้นให้กับบุคคลที่พบเห็นและเข้าใกล้ หวังว่าทุก ๆ ท่านจะมีทั้งความงดงามมากขึ้นทุก ๆ วัน งามทั้งกาย และงามทั้งใจ ด้วยธรรมะ ขันติ และโสรัจจะนี้
#ธรรมะดีดี #ข้อคิด #สาระดีดี #มีประโยชน์ #คนจริง #รักจริง #จริงใจ #กรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น