วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เสกคาถาอย่างไร ที่จะทำให้รวยและมีความสุข...



ความเป็นมาของคาถา... หัวใจเศรษฐี

(อุ  อา  กะ  สะ)
            
เรื่องคาถาหัวใจเศรษฐีนี้มาจากทีฆชาณุสูตร  มีเรื่องย่อดังนี้..ทีฆชาณุเป็นชายชาวเมืองโกฬิยะ ได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบทูลถามว่า “ข้าพระองค์เป็นคฤหัสถ์ ยังต้องการแสวงหาความสุขอย่างชาวโลก ต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงเมีย เลี้ยงลูกน้อง เลี้ยงเพื่อน ฯลฯ ยังไม่สามารถออกบวชได้อย่างพระองค์ แต่อยากรู้ว่าทำอย่างไร ถึงจะพอมีความสุขในชีวิตนี้ได้ และเมื่อตายไปแล้วก็ยังมีสุขในชีวิตหน้าได้อีก ขอพระองค์โปรดแสดงธรรมที่เหมาะแก่ข้าพระองค์ อันจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขในปัจจุบัน เพื่อประโยชน์เพื่อความสุขในภายหน้าด้วยเถิด”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสตอบถึง ึงควานี้มาจากทีฆชาณุสูตร  เรื่องย่อดังนี้..ือคือ ายไปไหนได้ นดี ๆ มีศรัโกฬิยะ  ยังมีความปรารถนาที่จะเป็นคฤหัสถ์ที่ดีความสุขในภพนี้ โดยให้หลักธรรม 4 ประการ คือ
     1. อุฏฐานสัมปทา หมายถึง ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร พูดง่ายๆ คือ "หาทรัพย์" เป็น
     2. อารักขสัมปทา หมายถึง ถึงพร้อมด้วยการรักษาทรัพย์  พูดง่าย ๆ คือ  "เก็บทรัพย์" เป็น
     3. กัลยาณมิตตตา หมายถึง ถึงพร้อมด้วยเพื่อนที่ดี  พูดง่าย ๆ คือ "สร้างคน" เป็น
     4. สมชีวิตา หมายถึง การเลี้ยงชีวิตอย่างเหมาะสม พูดง่าย ๆ คือ "ใช้ทรัพย์" เป็น

1. อุฏฐานสัมปทา  หมายถึงการเป็นผู้ขยันหมั่นเพียรในการแสวงหาทรัพย์  ก่อนจะได้ทรัพย์มา ต้องศึกษาหาความรู้เพื่อทำงานให้ดี  ไม่เกียจคร้านในการงานที่จะต้องทำ ต้องหนักเอาเบาสู้ในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย กิจการทั้งหลายต้องรู้จักรับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วง  แล้วช่วยกันทำเป็นทีม ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณางานที่จะต้องช่วยกันทำนั้น ให้สามารถทำงานและบริหารงานจนสำเร็จ….อย่างนี้เรียกว่าหาทรัพย์เป็น
2. อารักขสัมปทา  หมายถึง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยการรักษาคุ้มครองทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยน้ำพักน้ำแรง อาบเหงื่อต่างน้ำ ด้วยสุจริตธรรม ไม่ให้เงินทองรั่วไหล ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมิให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และรู้จักทำให้เงินนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดหรือให้เงินนั้นงอกเงยขึ้นด้วยความชอบธรรม  และพึงรักษาคุ้มครองทรัพย์นั้นด้วยการคิดว่า จะไม่ให้ถูกราชภัย ไม่ให้ถูกโจรภัย ไม่ให้ถูกภัยธรรมชาติ และไม่ให้ทายาทผู้ไม่เป็นที่รักมาลักไป   อย่างนี้เรียกว่ารักษาทรัพย์เป็น    
3. กัลยาณมิตตตา   หมายถึง การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่วเป็นมิตร   คบหากับผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา เมื่ออยู่ใกล้ก็จะคอยศึกษาจากคนดีเหล่านั้นในเรื่องศรัทธา ศีล  จาคะ  และปัญญาแล้วมาปฏิบัติตาม  เมื่อทำได้แล้ว  ก็จะถ่ายทอดไปให้กับคนที่ต้องการเป็นคนดีต่อไป  จนกว่าคนดี ๆ มีศรัทธา  ศีล จาคะ และปัญญา  เป็นกลุ่มเป็นทีมใหญ่ ๆ ๆ   พยายามรักษาเพื่อนดี ๆ ถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือค้ำจุนกันไปทั้งในทางโลกและทางธรรม รักเพื่อนเหมือนรักตัวเองก็จะได้เพื่อนดี ๆ มาส่งเสริมกันและกัน  อย่างนี้เรียกว่า สร้างคนเป็น 
4. สมชีวิตา   หมายถึง การเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ รู้จักกำหนดรายรับและรายจ่าย ไม่สุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือย หรืออัตคัดขัดสนจนเกินไป ให้รู้จักใช้เงินอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม รู้ทางเจริญและทางเสื่อมแห่งทรัพย์ เลี้ยงชีพแต่พอเหมาะ พอดี คำนวณการใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายได้  รู้ทางเจริญและทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์…..อย่างนี้เรียกว่าใช้ทรัพย์เป็น
 หากได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักหัวใจเศรษฐีทั้ง  4 ประการนี้  แล้ว จะได้รับความสุขในภพนี้อย่างดี ครอบครัวมีความสุข และสามารถเป็น ”มหาเศรษฐี” ผู้มั่งมีเงินทองมหาศาล  มีโอกาสสั่งสมบุญบารมีได้อีกมาก และเมื่อถึงคราวประพฤติปฏิบัติธรรม  ก็สามารถทำได้โดยง่าย เพราะครอบครัวไม่เดือดร้อนเรื่องทรัพย์สิน เงินทอง






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ศาสดาเอกของโลก (๑)

ศาสดาเอกของโลก   (๑)                  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นแล้วจากกิเลสอาสวะ กิจที่จะทำยิ่...